SHURE แบรนด์ที่ทุกท่านคุ้นเคยและคุ้นชื่อมาเป็นเวลายาวนาน


เริ่มต้นธุรกิจมาตั้งแต่ปี 1925 (พ.ศ.2468) จากความหลงใหลในการสร้างไมโครโฟนและอุปกรณ์เสียงที่ดี จนกลายเป็นแบรนด์ที่โลกยอมรับ เริ่มตั้งแต่ขายชิ้นส่วนของวิทยุตั้งแต่เป็นธุรกิจส่วนตัว จากนั้นในปีถัดมาจึงเริ่มขยับพิมพ์แคตะล็อกส่งทางไปรษณีย์


หลังจากที่เริ่มต้นบริษัทภายใต้ชื่อ Shure Radio Company ในปี 1928 (พ.ศ.2471) ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Shure Brothers Company และเริ่มมีพนักงานมากขึ้น
ปีถัดมา (1929) เกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มมีโรงงานประกอบวิทยุเกิดขึ้นมาจนทำให้ต้องลดจำนวนพนักงานแต่ Shure ก็ได้กลายเป็นตัวแทนจำหน่ายไมโครโฟนขนาดเล็ก


ปี 1931 (พ.ศ.2474) Shure เริ่มต้นพัฒนาไมโครโฟนขึ้นโดยคำแนะนำจากวิศวกรหนุ่มชื่อ Ralph Glover และในปีถัดมา (1934) ได้เป็นบริษัท 1 ใน 4 ของสหรัฐอเมริกา ที่ผลิตไมโครโฟนน้ำหนักเบาแต่คุณภาพสูงคือรุ่น 33N Two-Button Carbon Microphone เข้าสู่ตลาดที่ ณ เวลานั้นครองโดยไมค์ที่ใหญ่และแพงกว่ามาก หลังจากนั้นก็เริ่มพัฒนาไมโครโฟนต่างๆขึ้นมาเรื่อยโดยในปี 1933 ออกรุ่น 40D ซึ่งเป็นไมค์ Condender รุ่นแรกของ Shure และปี 1935 ก็ได้ออกรุ่น 70 ซึ่งเป็น Crystal microphone รุ่นแรกของ Shure


ปี 1939 รุ่น 55 Unidyne Microphone ซึ่งเป็นรุ่นที่สร้างชื่ออย่างมากให้กับ Shure ทั้งคุณภาพที่โดดเด่น ขนาดเล็กกว่าไมโครโฟนรุ่นอื่นๆในตลาด และราคาถูกกว่า ทำให้สามารถเข้าถึงได้ในทุกตลาด


ปี 1942 T-17B เป็นรุ่นที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในกองทัพบกและกองทัพเรือของสหรัฐ โดย Shure ได้พัฒนากล่องใส่แบบพลาสติก เพื่อป้องกันความร้อนขณะอยู่ในรถถัง ทั้งยังอนุรักษ์แร่เหล็กซึ่งหายากในช่วงสงครามอีกด้วย


ปี 1942-1944 T-30 Throat Microphone และ HS-33, HS-38 Headset Microphone และ M-CI Microphone สำหรับหน้ากากออกซิเจน รวมถึงไมค์ประกาศการออกรบ ถูกใช้ในงานกองทัพ โดยการใช้งาน T-30 ทำให้ทีมวางระเบิดสามารถสื่อสารกันได้ในเครื่องบินที่มีเสียงรบกวนสูง


ปี 1952 Shure ได้ออกไมค์แบบริบบอน รุ่น 300 Ribbon Microphone ระบบไมโครโฟนไร้สายที่เรียกว่า Vegabond ถูกพัฒนาออกมาในปี 1953 โดยลักษณะเป็นแบบเครื่องช่วยฟังที่ใช้ Batteries และทำงานได้ในรัศมีประมาณ 700 ตารางฟุต (~65 ตารางเมตร)


ปี 1955 ออกไมโครโฟนสื่อสารเคลื่อนที่ ที่ทำงานเทียบได้กับลำโพง ถัดมาในปี 1959 Unidyne III เป็นไมโครโฟนแบบ Unidirectional คุณภาพสูงตัวแรกที่ใช้พูดเข้าทางด้านท้ายของไมค์ ไม่ใช่ด้านข้าง ซึ่งถือเป็นบรรพบุรุษของ SM57 ในปัจจุบัน


1965 ปีของ SM57 Dynamic Microphone รุ่นที่ทุกท่านน่าจะรู้จักกันดีมาก ด้วยเสียงที่เป็นเอกลักษณ์และเป็นธรรมชาติ ซึ่งยังใช้อยู่บนแท่นแถลงการณ์ของประธานาธิบดีสหรัฐตั้งแต่ยุค ปธน.Lyndon B. Johnson จนถึงปัจจุบัน


1966 ปีของ SM58 ไมโครโฟนที่เป็นมาตรฐานของวงการ Live Sound ตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน เป็นไมค์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก


1976 ปีของไมค์เหน็บเสื้อที่เล็กที่สุดในโลก SM11 ถัดมาในปี 1978 SM81 ไมค์ Condenser ที่นำเอาคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอมาสู่งานแสดงสด ได้ออกวางจำหน่าย


1984 ปีของ SM91 unidirectional boundary-effect microphone ตัวแรก


1989 อีกปีสำคัญสำหรับการนำเสนอรุ่น Beta 58 และ Beta 57 ไมโครโฟนแบบ Supercardioid polar pattern ที่สร้างความประทับใจอย่างมากกับ Gain before feedback บนเวทีคอนเสิร์ต


จากนั้นในปีถัดมา 1990 Shure ก็เริ่มก้าวเข้าสู่ตลาดไมโครโฟนแบบไร้สายด้วยรุ่น L Series และในปี 1991 ก็ได้เริ่มขยายฐานธุรกิจข้ามไปฝั่งยุโรปโดยเริ่มมีศูนย์กระจายสินค้าในประเทศเยอรมัน


1997 อีกหนึ่ง สายการผลิตที่เปลี่ยนแปลงวงการดนตรีสดในยุคปัจจุบันด้วยระบบ in-ear Monitor system PSM600 บุกและครองตลาดได้อย่างรวดเร็ว


ปี 1999 อีกปีสำคัญของ Shure โดยออกรุ่น KSM32 ที่สร้างชื่อได้อย่างรวดเร็วและถูกเลือกใช้บนโต๊ะของ Jay Leno ในรายการ Tonight Show และเป็นปีที่เปลี่ยนชื่อจาก Shure Brothers Incorporated มาเป็น Shure Incorporated อย่างเป็นทางการ รวมถึงเปิด Shure Asia Limited ที่ฮ่องกงเพื่อเป็นศูนย์บริการและกระจายสินค้าในภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค


เฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปีในปี 2000 และ ตอกย้ำความสำเร็จต่อเนื่องในปี 2001 ด้วยการนำวงเฮฟวี่ระดับตำนาน Spinal Tap ขึ้นเล่นในงาน NAMM ช่วงฤดูหนาว


ปี 2005 ขยายฐานการผลิตมาในประเทศจีนโดยเปิดโรงงานผลิตที่ซูโจวและสำนักงานที่เซี่ยงไฮ้


ปี 2006 เปิดสำนักงานที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น รวมถึงในปีเดียวกัน หูฟัง Shure รุ่น E4c และระบบไมค์ไร้สาย UHF-R ได้รับเกียรติและรางวัลจาก TEC Awards จากความโดนเด่นในด้านเทคนิคและความเป็นเลิศในด้านของเสียง


ปี 2007 Shure Microflex® MX410 Gooseneck Microphone ถูกติดตั้งในห้องข่าวของทำเนียบขาว รวมถึงในปีเดียวกัน หูฟัง in-ear รุ่น SE530 ถูกเลือกจาก บก. iLounge ให้เป็น “Best of 2007/Deluxe Earphone of the Year” รวมถึง ได้เป็น “Editor’s Choice Award” ของ นิตยสาร Windows Vista และ “100 Best Products of 2007” จากนิตยสาร PC World Magazine


ปี 2008 Unidyne 55 ถูกบรรจุเข้าสู่ Hall of Fame ของ TECnology


2009 อีกปีที่มี Product ออกสู่ตลาดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น SE115 Sound Isolating Earphones, PG27USB and PG42USB Side-Address Condenser Microphones, X2u XLR-to-USB Signal Adapter, PG27 and PG42 XLR models of the new microphones, SM27 and SM137 for recording applications, และ SRH840, SRH440, and SRH240 professional headphone models รวมถึง KSM353 and KSM313 Ribbon Microphones.



2010 เฉลิมฉลองปีที่ 85 และยังคงออกผลิตภัณฑ์สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง
              dual driver SE425 and triple driver SE535 Sound IsolatingEarphones
              PSM® 900 Wireless Personal Monitor System
              side-address supercardioid Beta 27 microphone
              world-class sound reproduction KSM42 and KSM44A
              the first headphone headset SRH240m+ Headset with Remote + Microphone



2011 ได้รับการจัดให้เป็น 1 ในบริษัทชั้นนำของโลกด้านการผลิตอุปกรณ์เกี่ยวกับเสียง และงานประชุม และมีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดเช่นทุกปี
              Axient® ระบบไร้สายที่สายมาตรเปลี่ยนความถี่ได้เอง
              PGX Digital Wireless System
              SRH550DJ and SRH940 Headphones
              SE215 Earphones
              PSM®1000 Personal Monitor System
              Shotgun Microphones VP89 and VP82
              VP68 Omnidirectional Wireless Capsule 
              UHF-R® Portable Components UR3 and UR5



2012 เปิดตัวรุ่น ULX-D ระบบไร้สายแบบดิจิทัลที่มีความคมชัดระดับ 24 Bit และสัญญาณ RF ที่มีประสิทธิภาพ มีครบทั้งแต่ตัวรับแบบ Single, Dual, Quad เหมาะสำหรับงานเสียงในทุกประเภท
และเป็นอีก 1 ปีที่ผลิตภัณฑ์ของ Shure ได้รับรางวัลต่างๆมากมาย
            Beta 181 และ PGX-Digital ได้รับรางวัล TEC Awards ในงาน NAMM
            KSM42 และ PSM 1000 ได้รับรางวัล Readers Choice Awards จาก Pro Sound Web รวมทั้ง PSM 1000 ยังได้รับการบรรจุเป็น Product of the Year ใน Music & Sound Awards
อีกทั้งศิลปินชั้นนำ ยังเลือกผลิตภัณฑ์ของ Shure ในงานประกาศรางวัล GRAMMY Awards ไม่ว่าจะเป็น Bruce Springsteen and The E Street Band, Coldplay, The Beach Boys, Taylor Swift, และท่าน Sir Paul McCartney
ปี 2012 นี้ ยังเป็นปีของโอลิมปิก และแน่นอน Axient® Wireless Microphone ถูกเลือกนำมาใช้ในงานแสดงทั้งพิธีเปิด และ พิธีปิดของ โอลิมปิก ปีนั้นอีกด้วย


2013 ยังคงกวาดรางวัลต่างๆอย่างต่อเนื่องในงาน NAMM Trade Show ที่ Anaheim รัฐแคลิฟอร์เนีย
            Axient® ได้รับรางวัล TEC Awards
            GLX-D กับ ProSound Network Best of Show
            SM58® Review’s Dealers Choice Award จาก Musical Merchandise
            และ Readers’ Choice Awards ให้กับ PSM 1000, KSM9HS, and Axient®
ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ก็ยังมีออกมาอย่างไม่ขาดสาย
            VP83 and VP83F LensHopper Camera-Mount Condenser Microphones โดยที่ VP83F ยังได้รางวัล Best of NAB Award ในงาน NAB อีกด้วย
            Headset สำหรับงาน Broadcast BRH31M, BRH440M, and BRH441M
            SCM820 Digital IntelliMix® Automatic Mixer
            BLX Wireless Microphone Systems ไมค์ลอยชุดราคาจับต้องได้
            และ SE846 Sound Isolating Earphones หูฟังอินเอียร์รุ่นใหม่ในปีนั้น
            รวมถึง SRH1540 Premium Closed-Back Headphones หูฟังแบบครอบศีรษะ


2014 GLXD6 Wireless Guitar แบบใช้เท้าเหยียบ ขนาดเท่าก้อน Effect Guitar ทั่วไป
            และเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน ที่รายการ GRAMMY Awards ใช้ PSM 1000 สำหรับ in-ear monitor system ทั้งวง Imagine Dragon, Lorde, John Legend รวมถึง Sir Paul McCartney
            อีกทั้งเป็นปีที่ครบรอบ 75 ปีสำหรับ unidyne microphone และตอกย้ำความสำเร็จด้วยการที่ รุ่น 55 unidyne ได้รับ IEEE Milestone Award จากสถาบัน Institute of Electrical and Electronic Engineers



ที่มาข้อมูล: http://www.shure.com


 

ความคิดเห็น

แสดงความคิดเห็น

comments-form-wrapper clearfix